สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในไวน์และช็อคโกแลตไม่ได้ป้องกันริ้วรอย

ไม่นานมานี้ resveratrol - สารต้านอนุมูลอิสระในไวน์แดงและช็อคโกแลตดำ - ได้รับความนิยมในส่วนต่าง ๆ ของโลก ตั้งแต่นั้นมาเป็นที่คาดกันว่าในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียวผู้คนใช้เวลาประมาณ 30 ล้านดอลลาร์ต่อปีสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสาร

ผู้คนจึงเริ่มดื่มไวน์และช็อคโกแลตเพิ่มขึ้นเพื่อค้นหาวิธีป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจและต่อสู้กับความชรา แต่จากการศึกษาใหม่พบว่า resveratrol ไม่ใช่ความลับสำหรับเด็กอย่างที่ทุกคนจินตนาการเอาไว้

แต่ไม่จำเป็นต้องตกใจ การค้นพบที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ในสื่อต่างประเทศไม่ได้ระบุว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองนี้จำเป็นต้องถูกแยกออกจากอาหาร - เพียง แต่พยายามที่จะแสดงให้เราเห็นว่าไม่มีสารมหัศจรรย์ที่สามารถชดเชยเวลาที่หายไปและทำให้ชีวิตมีสุขภาพดี

ทำความเข้าใจกับการศึกษา

Shutterstock

เพื่อให้ได้ข้อสรุปเหล่านี้นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkins ในสหรัฐอเมริกาและมหาวิทยาลัยบาร์เซโลนาในสเปนทำการวิเคราะห์ชายและหญิง 783 คนอายุ 65 ปีขึ้นไป ทุกคนอาศัยอยู่ในภูมิภาค Chianti ของอิตาลีซึ่งมีการบริโภคไวน์แดงเป็นจำนวนมาก

นักวิทยาศาสตร์ทำการวัดระดับ resveratrol ทุก ๆ 24 ชั่วโมงตลอดเก้าปีที่ผ่านมา ข้อมูลที่ได้รับแสดงให้เห็นว่าระดับ resveratrol ไม่ได้มีอิทธิพลเพียงพอในกรณีของโรคหัวใจ, มะเร็ง, การอักเสบและแม้กระทั่งยืนยาว

แต่แล้วข้อมูลมาจากสารต้านอนุมูลอิสระที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย? “ French Paradox” - ซึ่งเริ่มมีไข้รอบ ๆ ไวน์แดงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา - เป็นข้อสันนิษฐานว่าการบริโภค resveratrol ผ่านการบริโภคไวน์สูงอธิบายว่าทำไมชาวฝรั่งเศสมีอัตราการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดต่ำ กับอาหารที่อุดมด้วยอาหารที่มีไขมัน

แต่ตอนนี้อะไรนะ!

Shutterstock

การวิจัยใหม่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อคว่ำ "French Paradox" เพราะมันยังเห็นว่าไวน์แดงและช็อคโกแลตมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายที่จะนำเสนอร่างกาย

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือการบริโภคไวน์และช็อคโกแลตเกินความจริงเป็นการลงทุนที่ไม่ส่งคืน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสิ่งที่สามารถสร้างความแตกต่างในการต่อสู้กับโรคและความชราคืออาหารเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำ